
คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับการเขียนบล็อกเพื่อหารายได้จาก Pinterest ไหม? ด้วยผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนต่อเดือน Pinterest ไม่เพียงแค่เป็นแพลตฟอร์มในการแชร์ไอเดีย แต่ยังเป็นโอกาสทองสำหรับบล็อกเกอร์ในการหารายได้แบบพาสซีฟ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก Pinterest คุณจำเป็นต้องสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ บทความนี้จะเป็นคู่มือการใช้ Pinterest ในการเขียนบล็อก ตั้งแต่การตั้งค่าบัญชีไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหา เพื่อช่วยให้คุณเปลี่ยนบล็อกของคุณให้เป็นเครื่องมือหารายได้ที่มีประสิทธิภาพ
I. วิธีการเขียนบล็อกเพื่อหารายได้จาก Pinterest อย่างละเอียด
1. การสร้างบัญชี Pinterest Business
ก่อนที่คุณจะเริ่มเขียนบล็อกเพื่อหารายได้จาก Pinterest สิ่งสำคัญคือต้องตั้งค่าบัญชีธุรกิจ บัญชีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสร้าง Pin ที่มีเนื้อหาหลายรูปแบบ แต่ยังให้การเข้าถึงเครื่องมือการวิเคราะห์และโฆษณาที่มีประโยชน์เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาดของคุณ
มาร่วมกันทำตามขั้นตอนการตั้งค่าบัญชีธุรกิจ Pinterest กันเลย:
- ขั้นตอนที่ 1: สร้างบัญชีธุรกิจ: ไปที่ Pinterest Business และลงทะเบียน หากคุณมีบัญชี Pinterest ส่วนตัวแล้ว คุณสามารถเปลี่ยนเป็นบัญชีธุรกิจได้โดยไม่ต้องสร้างบัญชีใหม่
- ขั้นตอนที่ 2: เลือกประเภทบัญชีธุรกิจ: เมื่อสร้างบัญชีธุรกิจ คุณจะถูกขอให้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ เช่น ชื่อบริษัท อุตสาหกรรม และประเภทของธุรกิจ นี่คือโอกาสที่คุณจะได้แสดงเนื้อหาของบล็อกของคุณอย่างชัดเจน
- ขั้นตอนที่ 3: เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของคุณ: เพื่อให้ Pinterest สามารถติดตามและวิเคราะห์กิจกรรมจากบล็อกของคุณได้ คุณต้องยืนยันเว็บไซต์ของคุณ การยืนยันนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึง Pinterest Analytics เพื่อดูข้อมูลที่สำคัญ
2. การเพิ่มประสิทธิภาพโปรไฟล์ Pinterest Business
การเพิ่มประสิทธิภาพโปรไฟล์ Pinterest Business
หลังจากตั้งค่าบัญชีธุรกิจแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเพิ่มประสิทธิภาพโปรไฟล์ Pinterest เพื่อดึงดูดผู้ใช้ โปรไฟล์ Pinterest ของคุณต้องสะท้อนถึงแบรนด์และเป้าหมายของบล็อกของคุณอย่างชัดเจน และช่วยเพิ่มการมองเห็นในการค้นหา มาดูวิธีการที่ Snappin แนะนำดังนี้:
- ประวัติส่วนตัว: ในส่วนนี้ เขียนคำบรรยายสั้น ๆ แต่ครบถ้วนเกี่ยวกับบล็อกของคุณ อย่าลืมใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบล็อก
- ตัวอย่าง: หากคุณเขียนเกี่ยวกับการทำอาหาร คุณสามารถเพิ่มคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง เช่น "สูตรอาหารง่าย ๆ", "เมนูทำเร็วสำหรับครอบครัว" เป็นต้น
- รูปโปรไฟล์: ใช้โลโก้หรือรูปภาพที่สามารถระบุตัวตนได้ง่ายและเกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณ รูปภาพนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้ใช้จดจำแบรนด์ของคุณได้ทันทีเมื่อพวกเขาพบโปรไฟล์ของคุณบน Pinterest
- บอร์ดคำอธิบาย: สร้างบอร์ดที่มีชื่อเหมือนกับชื่อบล็อกของคุณ เช่น "บล็อกทำอาหารของ [ชื่อคุณ]" วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาและรู้จักเนื้อหาของคุณได้ง่ายขึ้น
- SEO บน Pinterest: Pinterest ก็เป็นเครื่องมือค้นหาเช่นกัน ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพโปรไฟล์และเนื้อหาของคุณให้ตรงกับคำค้นหายอดนิยมจึงเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรมชาติในคำบรรยายโปรไฟล์ของคุณและในบอร์ดต่าง ๆ
3. สร้างบอร์ดที่เหมาะสมกับบล็อกของคุณ
บอร์ด Pinterest ไม่เพียงแต่ช่วยจัดระเบียบเนื้อหาของคุณ แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาหัวข้อที่คุณเขียนเกี่ยวกับได้ง่ายขึ้น การสร้างบอร์ดที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณ ดังนั้น Snappin จะขอแชร์เคล็ดลับต่อไปนี้:
- บอร์ดหลัก: สร้างบอร์ดที่มีชื่อเหมือนกับชื่อบล็อกของคุณ หรือชื่อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหลักที่คุณเขียน ตัวอย่าง: หากบล็อกของคุณเกี่ยวกับความงาม ชื่อบอร์ดอาจเป็น "บล็อกความงามของ [ชื่อคุณ]"
- บอร์ดย่อย:
- สร้างบอร์ดย่อยสำหรับหัวข้อเล็ก ๆ ที่คุณเขียนในบล็อก ตัวอย่างเช่น "สูตรความงามจากธรรมชาติ", "การดูแลผิวในฤดูร้อน", "อุปกรณ์เสริมความงาม" เป็นต้น
- แต่ละบอร์ดควรมีคำอธิบายอย่างละเอียดและคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อดังกล่าว
- ตั้งชื่อบอร์ดอย่างเหมาะสม: ตั้งชื่อบอร์ดให้หาง่ายและรวมคำค้นหาที่ผู้ใช้ Pinterest หรือ Google อาจค้นหาพบ
4. สร้าง Pin จากบอร์ดในบล็อกของคุณ
สร้าง Pin จากบอร์ดในบล็อกของคุณ
การเขียนบล็อกเพื่อหารายได้จาก Pinterest คุณต้องสร้าง Pin ซึ่งคือบทความหรือภาพที่ผู้ใช้สามารถคลิกเพื่อเข้าถึงบล็อกของคุณ ดังนั้น มาดูกันว่า Snappin จะทำอย่างไรในการสร้าง Pin จากโพสต์บล็อกตามวิธีการดังต่อไปนี้:
- วิธีที่ 1: อัปโหลดภาพหรือวิดีโอ:
- คุณสามารถอัปโหลดภาพหรือวิดีโอจากบล็อกของคุณไปยัง Pinterest และเพิ่มคำบรรยายโดยละเอียด รูปภาพควรสวยงาม คมชัด และเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความ
- หากคุณเขียนเกี่ยวกับสูตรอาหาร คุณสามารถอัปโหลดภาพของอาหารที่เสร็จสมบูรณ์หรือวิดีโอสั้น ๆ เกี่ยวกับกระบวนการทำอาหาร
- วิธีที่ 2: ใช้ฟีด RSS: Pinterest อนุญาตให้คุณเชื่อมโยงบล็อกของคุณกับบัญชี Pinterest ของคุณผ่านฟีด RSS เมื่อมีบทความใหม่ Pinterest จะทำการแชร์บทความนั้นโดยอัตโนมัติในรูปแบบของ Pin
- วิธีที่ 3: สร้าง Pin หลายตัวสำหรับแต่ละบทความ: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าชม คุณควรสร้างหลาย ๆ Pin จากบทความหนึ่ง ๆ คุณสามารถเปลี่ยนภาพ, ชื่อ, คำบรรยาย และทดลองเพื่อดูว่าแบบไหนดึงดูดผู้ชมมากที่สุด
เคล็ดลับดี ๆ: สร้างหลายรูปแบบของ Pin สำหรับแต่ละบทความเพื่อทดลอง ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปลี่ยนชื่อหรือภาพเพื่อดูว่าแบบไหนที่ได้ผลดีที่สุด
5. การเพิ่มประสิทธิภาพ Pin ของคุณให้มีคุณภาพ
Pin ไม่เพียงแต่เป็นภาพที่สวยงาม แต่ยังต้องได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อดึงดูดผู้ชมและช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มการเข้าชมบล็อก นี่คือลักษณะสำคัญที่จะช่วยให้ Pin ของคุณดึงดูดและมีประสิทธิภาพสูงสุด:
- ภาพที่ดึงดูด: Pinterest เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นภาพ ดังนั้นภาพของคุณต้องสะดุดตาและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความ คุณควรใช้ภาพที่มีคุณภาพสูงและสร้างสรรค์
- ชื่อที่น่าสนใจ: ชื่อของ Pin ควรชัดเจน, รวมคำค้นหา, และมีความน่าสนใจเพื่อให้ผู้ใช้ต้องการคลิกเข้าไปเพื่อดูเพิ่มเติม
- คำบรรยายของ Pin: คำบรรยายควรมีคำค้นหาหลักและให้ข้อมูลสั้น ๆ เกี่ยวกับบทความในบล็อก คำบรรยายที่ละเอียดและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบล็อกจะช่วยให้ Pin ของคุณมีโอกาสปรากฏในผลการค้นหาของ Pinterest
- การโพสต์อย่างสม่ำเสมอ: เพื่อรักษาการมีอยู่และดึงดูดผู้ชม คุณต้องโพสต์เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ Pinterest จะให้ความสำคัญกับ Pin ใหม่ ๆ ดังนั้นการอัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มการมองเห็น
6. การใช้ฟีเจอร์ธุรกิจของ Pinterest
การใช้ฟีเจอร์ธุรกิจของ Pinterest
หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่คุณสามารถใช้ประโยชน์ได้คือ Rich Pins ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมลงใน Pin ของคุณได้โดยตรง เช่น ชื่อเรื่อง, คำบรรยาย และรายละเอียดเกี่ยวกับบทความ สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นและสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Pinterest Ads ยังเป็นเครื่องมือโฆษณาที่มีประสิทธิภาพที่ Pinterest มอบให้กับผู้ใช้ ด้วยฟีเจอร์นี้คุณสามารถรันแคมเปญโปรโมทเพื่อเพิ่มการเข้าชมไปยังบล็อกของคุณ Pinterest Ads ช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น คำค้น, ความสนใจ และตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา
7. เพิ่มการเข้าชมไปยัง Pin ของคุณ
นอกจากนี้ เพื่อให้ Pinterest เป็นช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ คุณต้องทำการดึงดูดการเข้าชมโดยใช้วิธีการต่าง ๆ ที่ Snappin ต้องการแชร์:
- การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น: อย่าเพียงแค่โพสต์ อย่าลืมมีส่วนร่วมในชุมชน Pinterest โดยการกดถูกใจ, แสดงความคิดเห็น และปักหมุดเนื้อหาของผู้ใช้คนอื่น ๆ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์และดึงดูดผู้ใช้ใหม่
- การแชร์ในแพลตฟอร์มอื่น ๆ: โปรโมตบัญชี Pinterest ของคุณในโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เช่น Facebook, Instagram หรือ Twitter เพื่อดึงดูดผู้ติดตามใหม่และเพิ่มการเข้าถึง
- การเข้าร่วมกลุ่ม Pinterest: Pinterest อนุญาตให้คุณเข้าร่วมกลุ่มสนทนา ซึ่งคุณสามารถแชร์ Pin ของคุณและได้รับความสนใจจากผู้ใช้คนอื่น ๆ ที่มีความสนใจเดียวกัน
8. การวัดประสิทธิภาพใน Google Analytics
การวัดประสิทธิภาพใน Google Analytics
สุดท้าย การติดตามและประเมินผลเป็นสิ่งสำคัญในการปรับกลยุทธ์การตลาดบน Pinterest ของคุณ ดังนั้นอย่าลืมให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดสำคัญดังต่อไปนี้:
- การแสดงผล: จำนวนครั้งที่ Pin ของคุณปรากฏในผลการค้นหาของผู้ใช้ Pinterest
- การคลิก: จำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกที่ Pin ของคุณเพื่อเข้าถึงบทความของคุณ นี่คือตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงถึงความน่าสนใจของ Pin
- การบันทึก: จำนวนครั้งที่ Pin ของคุณถูกบันทึกลงในบอร์ดของผู้ใช้ ซึ่งแสดงถึงความน่าสนใจและคุณค่าของเนื้อหา
- การมีส่วนร่วม: ตัวชี้วัดนี้แสดงถึงจำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกหรือบันทึก Pin ของคุณ
- การคลิกที่ Pin: นี่คือตัวเลขรวมของการคลิกที่ Pin ของคุณ รวมถึงการคลิกเพื่อดูเนื้อหาบน Pinterest หรือเชื่อมโยงไปยังหน้าภายนอก Pinterest
- การคลิกออก: ตัวชี้วัดนี้วัดจำนวนครั้งที่คลิก URL ที่อยู่ใน Pin ของคุณ
- การดูวิดีโอ: จำนวนครั้งที่วิดีโอใน Pin ของคุณถูกดูตั้งแต่สองวินาทีขึ้นไป
ด้วยกลยุทธ์ที่ถูกต้อง การเขียนบล็อกเพื่อหารายได้จาก Pinterest ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป แค่คุณมีความมุ่งมั่นในการใช้ Pinterest ในฐานะบล็อกเกอร์ตามที่ได้แนะนำและไม่หยุดเรียนรู้ Pinterest จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเพิ่มการเข้าชมและรายได้จากบล็อกของคุณ เริ่มต้นเลยวันนี้และสำรวจศักยภาพของ Pinterest ในการทำเงินออนไลน์ของคุณ!